อาจแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ ดังนี้ ๑. คำที่สะกดผิดได้ง่าย เป็นรูปแบบของคำที่มีการสะกดผิด ซึ่งเกิดจากคำที่มีการผันอักษรและเสียงไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์ เช่น * สนุ้กเกอร์ → สนุ๊กเกอร์ * โน้ต → โน๊ต ๒. คำที่สะกดผิดเพื่อให้แปลกตา หรือ ง่ายต่อการพิมพ์ (ทำให้พิมพ์ได้เร็วขึ้น) เช่น * หนู→ นู๋ * ผม → ป๋ม * ใช่ไหม → ชิมิ * เป็น → เปง * ก็ → ก้อ * ค่ะ,ครับ → คร่ะ,คับ * เสร็จ → เสด * จริง → จิง * เปล่า → ปล่าว,ป่าว,เป่า ๓. การลดรูปคำ เป็นรูปแบบของคำที่ลดรูปให้สั้นลงมีใช้ในภาษาพูด เช่น * มหาวิทยาลัย → มหา’ลัย ,มหาลัย * โรงพยาบาล → โรงบาล ๔. คำที่สะกดผิดเพื่อให้ตรงกับเสียงอ่าน เช่น * ใช่ไหม → ใช่มั้ย ๕. คำที่สะกดผิดเพื่อแสดงอารมณ์ เช่น * ไม่ → ม่าย * ไปไหน → ปายหนาย * นะ → น้า * ค่ะ,ครับ →คร่า,คร๊าบ * จ้ะ → จร้า นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ใช้ในการพูด และกลุ่มที่ใช้ในการเขียน ๑. กลุ่มที่ใช้เวลาพูด เป็นประเภทของภาษาวิบัติที่ใช้ในเวลาพูดกัน ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏขึ้นในการเขียนด้วย แต่น้อยกว่าประเภทกลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน โดยมักพูดให้มีเสียงสั้นลง